12 แข้งดังที่ตกม้าตายที่พรีเมียร์ลีก

making-goal-by-player

มีนีกเตะมากมายที่อยากเข้าร่วมลีกดังจากอังกฤษ แต่ไม่ใช่กับทุกคนที่ประสบความสำเร็จในลีกนี้ ดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมสุดยอดนักเตะทั้ง 12 คนที่มีอาชีพที่ยอดเยี่ยม แต่กลับล้มเหลวให้กับลีกอังกฤษอย่างไม่มีวันลืม จะมีใครบ้างไปดูกัน

ไมค่อน (Maicon) : บราซิล

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2012/2013

อดีตนักฟุตบอลชาวบราซิลที่เล่นเป็นแบ็คขวา ในช่วงปี 2006 เขาได้เข้าร่วมทีมยัก์ใหญ่จากอิตาลี สโมสรอินเตอร์ มิลาน ซึ่งเขาได้กลายเป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ที่คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2010 แชมป์เซเรียอา 4 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ และการแข่งขันในประเทศต่างๆ เขามีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอย่างมากในมิลาน แต่ต่อมาในเดือนสิงหาคมปี 2012 เขาเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ซิตี้ และนั้นทำให้ไมค่อนล้มเหลวในการครองตำแหน่วของเขาจากผลงานที่ไม่ดีเท่าที่ควรตามตำแหน่งประจำในทีม ทำให้เขาถูกย้ายกลับไปอิตาลีเพื่อเล่นให้กับโรม่าอีกที

เดโก้ (Deco) : โปรตุเกส

เชลซี 2008-2010

อดีตนักฟุตบอลอาชีพที่เล่นเป็นกองกลางตัวรุกหรือกองกลางเป็นหลัก เขาเกิดและเติบโตในบราซิล แต่เขาได้รับสัญชาติโปรตุเกสและเล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกสด้วย นับว่าเขาเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในยุคของเขาเลย

เดโก้เป็นหนึ่งในนักเตะไม่กี่คนที่คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับสองสโมสร กับปอร์โต้ในปี 2004 และบาร์เซโลน่าในปี 2006 เขาได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรยูฟ่าและกองกลางยอดเยี่ยมของยูฟ่าในฤดูกาลที่คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกของปอร์โต้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2004 เดโก้เป็นผู้เล่นคนแรกที่คว้ารางวัลกองกลางยอดเยี่ยมของยูฟ่ากับสองสโมสรคือปอร์โต้และบาร์เซโลน่า เขาได้รับรางวัล FIFA Club World Cup Golden Ball ในปี 2006 และรางวัล Man of the Match

ในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2008 เขาย้านมาเล่นให้กับ เชลซีทีมจากลีกอังกฤษ ด้วยสัญญา 3 ปี แต่เขาสามารถอยู่กับลีกอังกฤษได้เพียงแค่ สองฤดูกาลเท่านั้นจากผลงานที่ไม่ดีที่เกิดจากการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องเขาจึงได้ลงเล่นเพียง 43 นัด และยิงไปได้ทั้งหมด 5 ประตู

ราดาเมล ฟัลเกา (Radamel Falcao) : โคลอมเบีย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2014-2015 และ เชลซี 2015-2016

นักฟุตบอลชาวโคลอมเบียวัย 37 ปี ที่เล่นเป็นกองหน้าให้กับสโมสรลาลีกา ราโย บาเยกาโน และทีมชาติโคลอมเบีย เขาถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในยุคของเขาและเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลโคลอมเบียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

ในช่วงเวลาที่ดีของเขาเมื่อเขาเข้าร่วมกับปอร์โตซึ่งเขาได้รับรางวัลมากมายรวมถึงยูฟ่ายูโรปาลีกและพรีไมราลีกาในปี 2011 ให้กับทีม ฟัลเกายังประสบความสำเร็จในลาลีกาในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับแอตเลติโก โดยเป็นผู้ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับสามในปี 2011–12 และ 2012–13 ด้วย ต่อมาในช่วงที่เขาถูกยืมตัวกับสโมสรในพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ตั้งแต่ปี 2014-2016 กับพรีเมียร์ลีกเขาได้ลงเล่นเพียงไม่กี่นัด ซึ่งเล่นให้กับแมน-ยู 26 นัด และทำได้เพียง 4 ประตู กับเชลซี ลงเล่น 10 นัด และทำประตูเพียง 4 นัด นั้นคือความล้มเหลวของเขาที่เขาไม่อาจจะลืมมันได้เลย

มาเตย่า เคซมัน (Mateja Kezman)

เชลซี 2004-2005

ตัวแทนกีฬาเซอร์เบียและอดีตนักฟุตบอลอาชีพที่เล่นเป็นกองหน้า เขาเป็นที่รู้จักกันดีในอาชีพค้าแข้งของเขากับ พีเอสวี โดยได้รับรางวัลมากมายและการยอมรับทั่วโลกว่าเป็นนักเตะที่มีมีศักยภาพที่จะเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเขา โดยเขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนักฟุตบอลดัตช์แห่งปีในปี 2003 ต่อมาหลังจากที่ย้ายไปร่วมทีมที่เชลซีในปี 2004 เคซมันถูกตราหน้าว่าล้มเหลวหลังจาก ผลงานของเขาที่เชลซี เนื่องจากทุกคนต่างมีความคาดหวังในตัวเขาสูงมากๆ ในตอนนั้นโดยได้ลงเล่นเพียง 25 นัดและทำได้เพียง 4 ประตู

เอร์นาน เครสโป (Hernan Crespo)

เชลซี 2003-2004 และ 2005-2006

อดีตกองหน้าผู้เล่นชาวอาร์เจนตินา เขาเป็นผู้จัดการคนปัจจุบันของสโมสรกาตาร์ อัล-ดูฮาอิล กองหน้าที่มีพรสวรรค์อย่างยิ่งในยุคของเขา นักเตะรายนี้ทำประตูได้มากกว่า 300 ประตูในอาชีพค้าแข้งของเขา ซึ่งครอบคลุมระยะเวลา 19 ปี ในระดับทีมชาติ เขายิงได้ 35 ประตู และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับ 4 ของอาร์เจนตินาด้วยทั้งยังได้รางวัลอีกมากมายจากลีกอิตาลี

แต่หลังจากที่ย้ายมาเล่นให้กับพรีเมียรลีก สโมสรเชลซีในปี 2003 ผลงานของเขากลับไม่โดดเด่น โดยทั้ง 5 ฤดูกาลที่อยู่กับสิงห์บลู เขาได้ลงเล่นเพียง 49 นัด และทำประตูไปได้เพียง 20 ประตูเท่านั้น

ดิเอโก้ ฟอร์ลัน (Diego Forlan)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2002-2004

ผู้จัดการทีมฟุตบอลอาชีพชาวอุรุกวัยและอดีตผู้เล่นที่เล่นเป็นกองหน้า ฟอร์ลันได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในยุคของเขา โดยเป็นผู้ชนะ 2 สมัยทั้งรางวัล ปิปิชิ และ รองเท้าทองคำยุโรป ในระดับสโมสร กับทีมชาติอุรุกวัย เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในฟุตบอลโลกปี 2010 จบด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดร่วมกันด้วย 5 ประตู รวมถึงประตูของทัวร์นาเมนต์ และคว้ารางวัลลูกบอลทองคำในฐานะผู้เล่นที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์

ในช่วงที่เขาย้ายมาเล่นให้แมน-ยู ในปี 2002 ฟอร์มของเขากับยูไนเต็ดไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับอินดิเพนเดียนเต แม้ว่าเขาจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2002–03 และเอฟเอคัพในปี 2003–04 ต่อมาในฤดูร้อนปี 2004 เขาย้ายไปร่วมทีมบียาร์เรอัลในสเปนแทน

เฟร์นันโด มอริเอนเตส (Fernando Morientes)

ลิเวอร์พูล 2005-2006

อดีตนักฟุตบอลชาวสเปนที่เล่นเป็นกองหน้า ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมแบบไม่มีสังกัด สำหรับในลาลีกาเขายิงได้ 124 ประตูจาก 337 เกมตลอด 15 ฤดูกาล เขาได้รับรางวัลใหญ่ 11 รายการกับสโมสรแรก รวมถึงถ้วยรางวัลแชมเปี้ยนส์ลีกสามรายการ

ในช่วงที่อยู่ที่ลิเวอร์พลูเขาค่อนข้างโดนวิจาร์ณว่าผลงานของเขา ‘เงียบเหงา’ อยู่ไม่น้อย ถึงอย่างไรโมเรียนเตสทำไปทั้งหมด 12 ประตูจากการลงเล่น 60 นัด นอกจากนี้ยังคว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2005 และเป็นฝ่ายแพ้ในฟุตบอลลีกคัพรอบชิงชนะเลิศ 2005 และรอบชิงชนะเลิศ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2005

อาเดรียน มูตู (Adrian Mutu)

เชลซี 2003-2004

ผู้จัดการทีมฟุตบอลอาชีพชาวโรมาเนียและอดีตผู้เล่น ซึ่งรับผิดชอบสโมสรราปิด บูคูเรสติในลีกา 1 ในอาชีพการเล่นของเขา เขาถูกนำไปใช้ในตำแหน่งกองหน้าหรือกองกลางตัวรุกด้วยบางครั้ง

เขาประสบความสำเร็จอย่างมากที่ปาร์ม่า ซึ่งเขายิงได้ 39 ประตูในอีกสามปีข้างหน้า ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้เขาได้รับเงิน 22.5 ล้านยูโรเพื่อย้ายไปเชลซีและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล บัลลงดอร์ ในปี 2003 หลังจากการทดสอบสารเสพติดล้มเหลว เขาได้รับการปล่อยตัวและกลับสู่เซเรียอาเพื่อเข้าร่วมยูเวนตุส

ฮวน เซบาสเตียน เวรอน  (Juan Sebastian Veron)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2001-2003, เชลซี 2003-2004

อดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวอาร์เจนตินาและประธานคนปัจจุบันของเอสตูเดียนเตส เด ลา พลาตา ซึ่งเขาเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา เขาคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้กับลาซิโอและอินเตอร์นาซิอองนาล และยูฟ่าคัพกับปาร์มา แต่ในช่วง 2001-2004 ที่อยู่กับพรีเมียร์ลีก เขากลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ตั้งใจไว้โดยลงแข่งให้แมน-ยู 51 นัด ทำประตู 7 ประตู และกับเชลซีเขาลงเล่น 15 นัดและทำประตูได้เพียง 1 ประตูเท่านั้น

อังเดร เชฟเชนโก้ (Andriy Shevchenko) : ยูเครน

เชลซี 2006-2009

ผู้จัดการทีมฟุตบอลยูเครน อดีตนักฟุตบอลอาชีพ และอดีตนักการเมือง เชฟเชนโก้เล่นเป็นกองหน้าให้กับดินาโม เคียฟ, เอซี มิลาน, เชลซี และทีมชาติยูเครน ล่าสุดเขาเป็นหัวหน้าโค้ชของสโมสรเซเรีย บี เจนัว

เขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับที่ 7 ในการแข่งขันทั้งหมดในยุโรปด้วย 67 ประตู ด้วยจำนวน 175 ประตูที่ทำได้สำหรับมิลาน เขาเป็นผู้เล่นที่มีผลงานมากที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของสโมสร และยังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของดาร์บี้ เดลลา มาดอนนินา (ดาร์บี้ระหว่างมิลานกับคู่แข่งในท้องถิ่นอย่างอินเตอร์ มิลาน) ด้วยจำนวน 14 ประตู นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลให้กับทีมชาติยูเครนด้วยจำนวน 48 ประตู ในช่วงค้าเข้งเขาได้รับรางวัลมากมาย ซึ่งรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดคือ บัลลงดอร์ ในปี 2004 แต่ช่วงที่อยู่เชลซีเขากลับได้ลงเล่นเพียง 48 นัดและทำได้ 9 ประตูจากสามฤดูกาลกับสิงห์บูล

เซอร์เก เรบรอฟ (Sergei Rebrov) : ยูเครน

ท็อตแนม 2000-2002, เวสต์แฮม 2004-2005

ผู้จัดการทีมฟุตบอลยูเครนและอดีตผู้เล่นที่เล่นเป็นกองหน้า ช่วงที่อยู่ไดนาโมเคียฟตลอดช่วงปี 1990 เดือนสิงหาคมปี 2017 เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของยูเครนพรีเมียร์ลีก แต่ช่วงที่อยู่กับพรีเมียร์ลีกผลงานเขาค่อนข้างไม่ดีนัก ที่ท็อตแน่ม ในปี 200-2004 เขาได้ลงเล่นเพียง 60 นัดและทำประตูได้ 10 ประตู และกับเวสต์แฮมลงเล่นเพียง 27 นัด และทำประตูได้ 1 ประตู

ดาวอร์ ซูเคอร์ (Davor Suker) : โครเอเชีย

อาร์เซนอล 1999-2000, เวสต์แฮม 2000-2001

ผู้บริหารฟุตบอลโครเอเชียและอดีตผู้เล่นมืออาชีพที่เล่นเป็นกองหน้า เขาดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลโครเอเชียตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2021 ในฐานะผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของโครเอเชียด้วยจำนวน 45 ประตู โดยทั่วไปแล้ว ชูเกอร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นกองหน้าชาวโครเอเชียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

ช่วงที่เล่นให้กับอาร์เซน่อลเขาสร้างความแตกต่างของผลงานตลอดเส้นทางได้ไม่โดเด่นนักจนถึงนัดชิงยูฟ่า คัพ ปี 2000 จากนั้นเขาก็ไปเล่นกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด จากนั้นก็ปิดฉากอาชีพด้วยการเล่นให้ทีมชาติเยอรมันแทน

Last update: : June 14, 2023

Category: 8Xbet